ธอส. ทำการเปิดเผยผลการ ประมูลบ้านมือสองออนไลน์ จากงาน 5.5 Super Summer Sale โดยสามารถขายได้ 103 รายการ มูลค่า 122 ล้านบาท (6 พ.ค. 2565) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยผลการจัดงาน ประมูลบ้านมือสองออนไลน์ ธอส. 5.5 Super Summer Sale ผ่าน Application : G H Bank Smart NPA เปิดประมูลระหว่างเวลา 12.00-13.00 น. ขายได้ถึง 103 รายการ มูลค่ารวม 122 ล้านบาท
พิเศษ!! ผู้ชนะการประมูลสามารถรับสิทธิ์โปรโมชั่นสินเชื่อดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 24 เดือน
และเข้าอยู่อาศัยได้ระหว่างผ่อนดาวน์ เพียงชำระเงินประกันการเข้าอยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 1.5% ของราคาประมูล นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (5 พฤษภาคม 2565) ธอส.จัดงาน “ประมูลออนไลน์บ้านมือสอง ธอส. 5.5 Super Summer Sale ผ่าน Application : G H Bank Smart NPA” ในระหว่างเวลา 12.00-13.00 น. ผลปรากฏว่า เพียง 1 ชั่วโมง สามารถจำหน่ายบ้านมือสอง ธอส. ทั่วประเทศได้ 103 รายการ คิดเป็นจำนวนเงินรวม 122 ล้านบาท
แบ่งเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 3 รายการ จำนวนเงิน 8.5 ล้านบาท และทรัพย์ในส่วนภูมิภาค 100 รายการ จำนวนเงิน 113.5 ล้านบาท โดยบ้านเดี่ยว ถือเป็นทรัพย์ประเภทที่ขายได้มากที่สุดจำนวน 65 รายการ รองลงมาคือทรัพย์ประเภททาวน์เฮ้าส์ ขายได้จำนวน 33 รายการ
สำหรับทรัพย์ที่ประมูลขายได้ ในราคาต่ำที่สุด คือ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 59 ตารางวา ใน อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ ปิดประมูลในราคาเพียง 200,000 บาท เท่านั้น ส่วนทรัพย์ที่ประมูลขายได้ในราคาสูงสุด คือ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 57.2 ตารางวา ในโครงการภัทราอ่อนนุช-วงแหวน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ปิดประมูลได้ในราคา 5,220,000 บาท เนื่องจากเป็นทรัพย์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และสปอตคลับ รวมทั้งยังเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทีเดินทางได้คล่องตัวและใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย
พิเศษ!! ผู้ที่ชนะการประมูลจะได้รับส่วนลด On Top เพิ่มอีก 10% จากราคาที่ปิดประมูล หากโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 และสามารถใช้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับซื้อทรัพย์ NPA อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นานสูงสุด 24 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) และสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ในระหว่างผ่อนดาวน์เพียงชำระเงินประกันการเข้าอยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 1.5% ของราคาประมูลได้
สำหรับผู้ที่พลาดการประมูลทรัพย์ NPA ของธนาคารในครั้งนี้ สามารถเข้าร่วมประมูลทรัพย์มือสองออนไลน์ ธอส. ได้อีกครั้ง ในงาน “6.6 Midyear Sale เทกระจาด ลดกระจายทั่วประเทศ” ในวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 โดยจะมีทรัพย์เด่นทำเลดีมาเปิดประมูล เป็นจำนวนมาก ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด Application : G H Bank Smart NPA และลงทะเบียนเพื่อรอเข้าร่วมประมูลออนไลน์กับ ธอส. ในครั้งต่อไปได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com, Mobile Application : G H Bank Smart NPA และ Line Official Account : @ghbnpa
ธอส. เตือนภัย Line ปลอม แอบอ้างหลอกให้โอนเงิน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศเตือนภัยถึงการใช้งานบัญชี Line ปลอม แอบอ้างเป็นแผนกบัญชีของธนาคารเพื่อทำการหลอกลวงเงินจากประชาชน
ธอส., Line ปลอม – (6 พ.ค. 2565) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขอแจ้งเตือนภัย กรณีมีมิจฉาชีพสร้าง LINE โดยใช้รูปภาพของนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นรูปภาพ Profile และใช้ชื่อ Account ว่า “ฝ่ายบัญชี” แอบอ้างเป็นบริษัทผู้ให้บริการเงินกู้ เพื่อหลอกลวงเงินจากประชาชน โดยหลอกลวงให้โอนเงินค่าชำระภาษีนำจ่ายก่อนได้รับวงเงินกู้
ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ขอยืนยันว่า ธนาคารและกรรมการผู้จัดการ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Line และการให้บริการทางการเงินดังกล่าว รวมถึง Line อื่น ๆ ที่อาจใช้รูปภาพและกระทำในลักษณะเดียวกัน เพื่อหลอกลวงเอาเงินจากประชาชน ซึ่ง ธอส.อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างแล้ว และธนาคารขอเตือนให้ผู้ที่ได้รับข้อความลักษณะนี้ อย่าหลงเชื่อกลโกงของมิจฉาชีพหรือโอนเงินให้อย่างเด็ดขาด
สอบถามรายละเอียด หรือ ติดต่อข้อมูลข่าวสารของธนาคารเพิ่มเติมได้ที่ www.ghbank.co.th หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
นอกจากนนี้ ยังมีการคาดการอัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤษภาคม 2565 อาจมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูงขึ้น ประกอบกับมาตรการตรึงราคาและการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ได้สิ้นสุดลงในเดือนเมษายนและปลายเดือนพฤษภาคมนี้
รวมถึง การปรับราคาสูงขึ้นแบบขั้นบันไดของก๊าซหุงต้ม (LPG) และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบ นอกจากนี้ ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์โลก มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และพันธมิตร และการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ ยังคงเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้เงินเฟ้อของประเทศสูงขึ้นได้ในระยะต่อไป ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป