อนุทิน ตอบ ติดโควิด ไม่เสียสิทธิ์ในการเข้าคูหา เลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพ และ สภากรุงเทพ นี้แน่นอน เตรียมหารือ กกต. หามาตรการรองรับ นาย อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคม และ สมาชิกสภากรุงเทพ สำหรับผู้ที่ติดโรคโควิด-19 ที่จะขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. นี้
โดยนายอนุทินระบุว่า กรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างการหารือเร่งด่วนกับ กกต.ในการบริหารจัดการในเขตเลือกตั้ง
เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 โดยคำนึงและประเมินถึงความปลอดภัยและไม่ลิดรอนสิทธิ์ เพราะแม้จะป่วยหรือไม่ได้ฉีดวัคซีน เราจะไปตัดสิทธิ์เขาไม่ได้ หากยืนยันจะใช้สิทธิ์ในความเป็นประชาชน เพราะการเลือกตั้งคือสิทธิ์ที่ทุกคนหวงแหน การที่ผู้คนเจ็บป่วยออกมาใช้สิทธิ์ไม่ได้ ถือเป็นการก้าวล่วง ก็ต้องหาวิธีจนได้ที่จะทำให้การบริหารจัดการการเลือกตั้งผ่านไปได้ด้วยดี
เพราะเราจะเดินทางไปสู่เป้าหมายโรคประจำถิ่น ซึ่งเราก็เดินมากว่าครึ่งทางแล้ว เราลดมาตรการต่างๆ ลง เช่น การรักษาพยาบาลจากเดิมทุกคนที่ต้องกักตัวไว้ 14 วันก็ลดลง ตอนนี้บางคนรักษาด้วยตัวเอง บางคนไม่ต้องรับประทานยาก็หายเอง จะเหลือเพียงกลุ่มอาการหนัก หรือกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนถึงจะเข้าสู่การรักษาที่ยุ่งยากสลับซับซ้อน
“ขณะนี้เริ่มมีแนวทางออกมาบ้างแล้ว ยังอยู่ระหว่างการหารือของกรมควบคุมโรคและ กกต. ซึ่งอาจจะมีการจัดคูหาหรือช่องแยกโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด ส่วนก่อนเลือกตั้งต้องตรวจ ATK ก่อนหรือไม่นั้น ทุกวันนี้ประชาชนสามารถตรวจ ATK ด้วยตนเองอยู่แล้วเมื่อมีอาการสงสัย
เมื่อผล ATK เป็น 2 ขีดหรือติดเชื้อ ก็ให้แจ้งหน่วยเลือกตั้ง คนที่มาก็ต้องใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ยืนยันว่าจะมีการบริหารจัดการการเลือกตั้งให้เกิดความปลอดภัยแก่ส่วนรวมเป็นหลัก จะไม่มีสาเหตุให้เกิดความสูญเสียแน่นอน” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่เพียงพอหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องทำให้ได้ ผ่านมาทุกครั้ง ที่บอกหมอไม่พอ พยาบาลไม่พอ ก็ต้องทำให้พอ ซึ่งเราก็มี อสม.มาช่วยเสริมเติม ช่วยสร้างความมั่นคงความมั่นใจให้เกิดขึ้น เราก็ต้องทำให้ได้ เพาะเป็นภารกิจที่ไม่ได้เกิดทุกวัน และเป็นเหตุที่มีความสำคัญต่อการบริหารบ้านเมืองก็ต้องหาวิธีที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ลิดรอนสิทธิ์ประชาชนอย่างเด็ดขาด
‘แรมโบ้’ ลาออกจากพรรค ‘รวมไทยสร้างชาติ’ แสดงความบริสุทธิ์ปมคลิปเสียง
แรมโบ้ ประกาศลาออกจากพรรค รวมไทยสร้างชาติ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ปมคลิปเสียงที่มีการกล่าวหาว่าตนใช้โควตาหวยหาเสียง นาย เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ ได้ส่งหนังสือเรียนถึงสื่อมวลชนว่าว่า ตนขอประกาศลาออกจากพรรครวมไทย หลังจากที่มีคลิปเสียงใช้โควตาหวยหาเสียง
โดยนายเสกสกลที่ลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นระบุว่า “สื่อมวลชนที่รักทุกท่าน ตามที่มีข่าวเรื่องคลิปเสียงผมกับนางจุรีพรสินธุไพร ตามปรากฏเป็นข่าวที่ทราบกันโดยทั่วไปนั้นในเรื่องนี้ผมได้แสดงจุดยืนชัดเจนในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของผมเพื่อเป็นบรรทัดฐานทางการเมือง โดยการลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองแล้วนั้น
เพื่อให้ภาพพจน์และการขับเคลื่อนของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” เป็นไปในทางที่ดีในสายตาพี่น้องประชาชน ไม่ให้เกิดความด่างพร้อยเสียหายต่อทางพรรคฯ และความลำบากใจต่อคณะกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ และผมต้องการให้พรรคเป็นที่ยึดโยงและเป็นสถาบันหลักสำคัญ ได้ทำงานตามนโยบายตอบสนองให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนในภายภาคหน้าได้อย่างราบรื่นตามเจตนารมณ์ของพรรคฯ
ผมจึงได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)”
ตามที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติเสนอ โดยให้ดําเนินการตามความเห็นของสํานักงบประมาณ และให้ยกเว้น การปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง ในส่วนที่เกี่ยวกับ
หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันงบประมาณในข้อ 1.2 และข้อ 1.6 ตามหนังสือสํานักงบประมาณที่ นร 0704/ 097 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าเมื่อสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนเรียบร้อยแล้ว ควรดําเนินการรื้อถอนอาคารเดิมเพื่อความปลอดภัยในการใช้อาคาร
โดยวิธีแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามที่บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จํากัด เสนอ เป็นวิธีการจัดสรร งบประมาณรายจ่ายประจําปีตามที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติเสนอเท่านั้น ไม่รวมรูปแบบการจัดจ้าง แนวทางการจัดจ้าง หรือวิธีการจัดจ้าง ซึ่งเป็นเรื่องของหัวหน้าส่วนราชการจะเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป