เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม บุณณดา หลัง หลอกขายบอนสี มีผู้เสียหายรวมเฉียดล้านบาท ก่อนส่งตัวให้ ฉีดวัคซีนโควิด ให้เสร็จก่อน เนื่องจากผู้ก่อเหตุกำลังรอรับวัคซีน พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สสส.ภ.จว.ชุมพร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจบกุม นำตัว น.ส.บุณณดา อมรธชาชัย อายุ 33 ปี ชาว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหาว่า กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ มาสอบปากที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จว.ชุมพร
หลังจากที่เธอได้หลอกขายบอนสี ด้วยการก๊อปภาพบอนสี
สวยๆ ที่ตลาดมีความต้องมาลงโพสต์ขาย เมื่อมีคนสนใจ ก็ให้โอนเงินมา แต่ไม่ส่งสินค้าให้ เพราะไม่มีของส่งให้ ทำให้มีคนถูกน.ส.บุณณดา หลอกนับพันคน ความเสียหายเกือบล้านบาท ซึ่งผู้ที่ถูกหลอกจนรวมตัวแจ้งความและนำไปสู่การจับกุมในที่สุด
โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุม น.ส.บุณณดา ที่บริเวณหน้า รพ.ท่าแซะ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดให้บริการฉีดวัคซีน หลังจากที่ตำรวจได้รับรายงานว่าพบบุคคลเพศหญิงมีตำหนิรูปพรรณตรงกันตามหมายจับ เมื่อขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน ทราบชื่อคือ น.ส.บุณณดา อมรธชาชัย ตรงกันตามหมายจับ
ชุดจับกุมจึงแสดงหมายจับดังกล่าวให้ดูอ่านให้ฟัง และให้น.ส.บุณณดา รับว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ตามหมายจับนี้จริง เจ้าหน้าที่จึงขอจับกุม และก่อนที่จะคุมตัวไป ทางตำรวจรอให้น.ส.บุณณดา ให้เจ้าหน้าที่พยาบาล ฉีดวัคซีนโควิด-19 จนเป็นที่เรียบร้อยก่อน แล้วจึงนำตัวมาที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จว.ชุมพร เพื่อทำบันทึกการจับกุม
ด้าน น.ส.บุณณดา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้าที่จะถูกจับ ตนขายเสื้อผ้าออนไลน์ ตามทางเฟซบุ๊กในชื่อของตน และขายออนไลน์อยู่ประมาณ 1 ปีเศษ มีเพื่อนมาชวนไปเล่นพนันออนไลน์ของฟิลิปปินส์ คล้ายไพ่ป๊อก 8-9 บ้านเรา เงินที่ลูกค้าโอนมา ก็เอามาเล่นจนหมด ไม่มีเงินไปซื้อของมาให้ลูกค้า จึงถูกลูกค้ารุมประณามและตามล่า ตนจึงปิดเฟซบุก๊หนี มาเปิดเฟซบุ๊กใหม่
สมรักษ์ เผยคำพูดสุดท้าย สจ.ดำ กลางโหนกระแส ก่อนฆ่ายกครัว 4 ศพ
สมรักษ์ คำสิงห์ เปิดคำพูดสุดท้าย นายธวัชชัย ทองอ่อน หรือ สจ.ดำ หลังไปออกโหรกระแส ถึงปมหนี้สินและธุรกิจลอตเตอรี่ที่ทำร่วมกัน จากกรณีที่นายธวัชชัย ทองอ่อน หรือ สจ.ดำ ก่อเหตุปลิดชีพตัวเองและครอบครัวรวม 4 ศพ ภายในทาวน์โฮม 3 ชั้น ย่านกรุงเทพกรีฑา กทม. โดยเบื้องต้นเจ้ากหน้าที่ตำรวจคาดว่า ปมก่อเหตุมาจากปัญหาหนี้สิน
ขณะเดียวกันประเด็นของหนี้สินนั้น สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตกำปั้นชื่อดัง ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยอดีตนักมวยคนดัง เล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า เวลา 10.00 น. สจ.ดำ โทรศัพท์มาหาเพื่อคุยเรื่องหนี้ 10 ล้านบาท และนัดกันว่าจะจ่ายให้ก่อน 2.5 ล้านบาท พร้อมนัดเวลารับเงินตอนบ่ายโมง ให้มาเจอกันที่ร้าน น้ำเสียงตอนนั้นก็ดูร่าเริงดี ไม่เหมือนคนจะฆ่าตัวตาย
พอมาถึงที่ร้าน ไม่พบ สจ.ดำ พยายามติดต่อไปก็ไม่รับสาย จนผ่านไปราว 10 นาที ตำรวจมาคุยกับพนักงาน เลยรู้ว่าที่บ้านของ สจ.ดำ มีคนได้ยินเสียงปืน 7-8 นัด ตนจึงรีบตามไปดูถึงที่บ้าน พบตำรวจยืนอยู่เต็มเลย และที่บ้านมีคนตาย 4 ศพ ซึ่งนอกจากตนแล้ว ในวันนั้น สจ.ดำ ยังนัดเจ้าหนี้อีกคนหนึ่งด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้แค่ว่ามาที่บ้านเท่านั้น
ขณะที่เรื่องหนี้สิน สมรักษ์ ยอมรับว่าตนไม่ได้กดดัน สจ.ดำ เลย ตนคือพ่อค้าคนกลางระหว่าง สจ.ดำ กับชาวบ้านที่ซื้อลอตเตอรี่ สจ.ดำพยายามผัดหนี้แล้วผัดหนี้อีก ลึก ๆ ตนเชื่อว่าเขาเป็นคนดี ไม่ได้โกงใคร ช่วยเหลือชาวบ้านมาตลอด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นปัญหาที่เกิดจากส่วนอื่น และสาเหตุการฆ่าตัวตายน่าจะมาจากเรื่องนี้
เมื่อพูดถึงกระบวนการการซื้อลอตเตอรี่ พบว่า เป็นไปได้ว่า สจ.ดำ ไปรับลอตเตอรี่จากผู้ใหญ่ และเจอผู้ใหญ่บิดมาอีกที ทำให้ยอดไม่เป็นไปตามที่ต้องการ จนติดหนี้เป็น 10 ล้าน ตนเคยถามเขาแล้ว เขาก็ไม่เคยบอกเลย
ขณะเดียวกันในรายการ พิธีกร หนุ่มกรรชัย ดำเนิดพลอย ยังได้ตั้งคำถามว่า ธุรกิจค้าลอตเตอรี่มันคือธุรกิจมืดหรือเปล่า เพราะรับแล้วขายแพงเป็นทอด ๆ ไม่ใช่ขายในราคา 80 บาท อย่างที่รัฐบอก ซึ่งสมรักษ์และผู้ร่วมรายการก็ยอมรับว่า ธุรกิจนี้คือธุรกิจสีเทา ๆ โดยสมรักษ์กล่าวถึงหนี้ 8.8 ล้านบาทที่เหลือก็ต้องหากันต่อไป ลูกสาวคงไม่ให้เงินแล้ว ตนยืนยันจะไม่ฆ่าตัวตาย
นอกจากนี้ในรายการยังมีการเปิดเสียงจากเพื่อนบ้านที่อยู่ในวันเกิดเหตุ โดยเพื่อนบ้านเล่าว่า ตอนได้ยินเสียงปืนครั้งแรก เดินไปดูที่บ้านแล้วก็กลับมาบ้านตัวเอง จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนอีกชุดหนึ่ง รอบนี้ไม่ออกจากบ้านแล้วเพราะค่อนข้างกลัว ได้แต่บอกเพื่อนบ้านอีกคนให้ไปช่วยดู สจ.ดำ เป็นคนอัธยาศัยดี พูดจานิ่มๆ น่ารัก เจอกันก็สวัสดีครับ ขนม ผลไม้ ก็เอามาแบ่งเพื่อนบ้าน
ในส่วนของคดี พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 กล่าวถึงแนวทางการสอบสวนคดี โดยพนักงานสอบสวนได้เรียกสอบพยานทั้งบุคคลใกล้ชิด เช่น น้องชายและแม่ของผู้เสียชีวิต รวมถึงเพื่อนบ้าน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน โดยพนักงานสอบสวนให้น้ำหนักเหตุการณ์ไปที่ประเด็นส่วนตัว ปัญหาหนี้สินของผู้เสียชีวิต แต่ยืนยันว่ายังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป